จะซื้อบ้านหรือคอนโด ต้องเตรียมอะไรบ้าง?

จะซื้อบ้านหรือคอนโด ต้องเตรียมอะไรบ้าง?

20 July 2019

จะซื้อบ้านหรือคอนโด ต้องเตรียมอะไรบ้าง?

การจะเป็นเจ้าของบ้านหรือคอนโดสักหลังถือว่าเป็นความฝันของใครหลายๆ คนเลยก็ว่าได้ แต่การจะซื้อบ้านหรือคอนโดสักหลังนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเป็นสินทรัพย์ที่มีราคาสูง ไม่เหมือนกับรถยนต์ และเมื่อซื้อไปแล้ว เราจะต้องอยู่ที่นั่นไปอีกนาน หรือบางคนอาจอยู่ที่นั่นไปตลอดชีวิต นอกจากนี้ เมืองไทยก็มีบ้านและคอนโดผุดขึ้นมากมาย ก่อนจะซื้อก็ควรจะหาข้อมูลต่างๆ ให้ดีเสียก่อน โค้ชเลยรวบรวมเคล็ดลับการเตรียมตัวซื้อบ้านมาให้เพื่อนๆ ได้ลองอ่านกันดูครับ


1. ตอบตัวเองให้ได้

ก่อนจะซื้อบ้านหรือคอนโดสักหลัง เราจะต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่าเพราะอะไรเราถึงต้องซื้อ? เราต้องการซื้ออสังหาประเภทไหน บ้าน คอนโด หรือทาวเฮาส์? สมาชิกครอบครัวมีจำนวนกี่คน? มีจำนวนห้องนอนกี่ห้องนอน? เพียงพอกับจำนวนสมาชิกในบ้านหรือไม่? ต้องมีห้องทำงานแยกต่างหากหรือเปล่า? มีสวนไหม? มีที่จอดรถไหม? มีกี่คัน? งบประมาณในการซื้อคือเท่าไร? และควรต้องซื้อแถวไหน ใกล้ที่ทำงาน หรือใกล้โรงเรียนลูกถึงจะดี? อาจจะเขียนเป็นลิสต์ไว้ก่อน เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหาบ้านให้ตรงกับความต้องการ


2. ประเมินขนาดของคอนโดหรือบ้านที่ต้องการ
ลองจินตนาการว่าบ้านควรมีพื้นที่ใช้สอยเท่าไร จึงจะเหมาะกับจำนวนสมาชิกในครอบครัว เราจะใช้ห้องต่างๆ อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ถึงแม้ว่าตอนที่ซื้อบ้านนี้ยังไม่จำเป็นต้องมีห้องอ่านหนังสือ แต่ต่อไปในอนาคต ถ้าวางแผนว่าจะแต่งงาน มีลูก คงต้องอยู่บ้าน คอนโดคงไม่เหมาะ ถ้าอยู่ที่บ้านหลังเดิม ก็อาจจะต้องมีพื้นที่สำหรับทำการบ้าน อ่านหนังสือ ให้กับลูกในอนาคตด้วย เพราะฉะนั้น ควรคิดถึงการใช้งานพื้นที่ต่างๆ ของบ้านเราให้สอดคล้องกับครอบครัวและไลฟ์สไตล์มากที่สุด


3. สอบถามเซลล์ของโครงการนั้น
โดยปกติแล้วเซลล์ของโครงการมักจะพร้อมให้ความช่วยเหลือเราเสมอในการซื้อบ้านของโครงการเขา หรือถ้าจะซื้อบ้านมือสองก็ควรสอบถามเจ้าของบ้านหรือเอเจนท์ให้มากที่สุด เช่น สอบถามว่าโครงการนี้มีจุดเด่นเรื่องอะไรเป็นพิเศษ? แถวนี้เป็นอย่างไร? การเดินทางสะดวกสบายไหม? เพื่อนบ้านคนอื่นที่ซื้อโครงการนั้นเป็นใครบ้าง? มีโปรโมชั่นอะไรที่น่าสนใจบ้างไหม? และโค้ชชอบถามเสมอว่าน้องซื้อห้องไหน ถ้าเซลล์ก็ยังซื้ออยู่เองหรือลงทุน แสดงว่าโครงการนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว


4. ควรพาคนในครอบครัวไปดูบ้านด้วย

ถ้าคนในครอบครัวต้องย้ายไปอยู่ในบ้านหรือคอนโดที่เราจะซื้อ เราควรพาพวกเขาไปดูบ้านด้วย นะครับ เพราะทุกคนมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ทุกคนมีส่วนที่จะออกความเห็นว่าชอบบ้านหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นห้องต่างๆ เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนอน หรือแม้กระทั่งสวน ซึ่งความคิดของคนในครอบครัวอาจแตกต่างจากเรา เพราะความคิดของคนเรานั้นแตกต่างกันอยู่แล้ว ดังนั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่ครอบครัวควรจะแสดงความคิดเห็น ปรึกษากัน ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อบ้านหลังใหม่เพื่ออยู่ด้วยกัน


5. วัสดุที่ใช้ในการสร้าง

นอกจากภายในบ้านที่เราต้องดูแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้เกิดบ้านขึ้นมานั่นก็คือวัสดุ อิฐ ปูน นั้น เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน บ้านในยุคนี้มักจะประหยัดต้นทุนมากกว่าบ้านสมัยก่อน ซึ่งก็ทำให้บ้านนั้นมีราคาถูกลงส่งผลดีกับผู้ซื้ออย่างเรา แต่เพื่อตรวจสอบว่าบ้านของเราจะมีความคงทนหรือไม่ ดีเวลลอปเปอร์อาจจะมีการรับประกันต่างๆ ให้กับคุณ แต่ถ้าหากเป็นการซื้อบ้านมือสอง คุณก็ควรสอบถามจากเจ้าของบ้านหรือเอเจ้นท์เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน


6. ประเมินรายได้ของเรา
โดยทั่วไปธนาคารจะให้วงเงินกู้ประมาณ 15-30 เท่าของรายได้ครับ และมีงวดต่อเดือน ประมาณ 25-30% ของรายได้รวมของเรา สมมุติว่ารายได้ 30,000 บาทต่อเดือน ควรผ่อนอยู่ที่ 7,500 – 9,000 บาทต่อเดือน อะไรประมาณนี้แหละครับ ซึ่งระยะเวลากู้ก็สำคัญเช่นกันครับ เพราะเมื่อรวมกับอายุของเราแล้วต้องไม่เกิน 65-70 ปีครับ


7. หากเป็นโครงการใหม่ควรเลือกโครงการด้วย
ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียงของเจ้าของโครงการ ดูรูปแบบการออกแบบของโครงการ แผนในการสร้างโครงการ ทำเลที่ตั้งของโครงการ และเมื่อเวลาผ่านไปทำเลที่ตั้งนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง? สิ่งต่างๆ เหล่านี้ เป็นสิ่งที่เราก็ควรจะพิจารณาด้วยครับ


8. เตรียมเงินสด
ข้อนี้มีความสำคัญมากๆ เลยนะครับ หากเป็นโครงการที่ยังสร้างไม่เสร็จ ซึ่งนอกจากค่าผ่อนกับธนาคารแล้ว ต้องมีค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้แก่ ค่าทำสัญญาหรือเงินจอง เงินดาวน์ ค่าโอนบ้าน ค่าจดจำนอง ค่าส่วนกลาง ค่ามิเตอร์ไฟ,น้ำ เพราะฉะนั้นต้องเตรียมตังค์ไว้ให้พร้อมนะครับ

การซื้อบ้านใหม่นั้น ถือว่าเป็นการลงทุนครั้งหนึ่งที่สำคัญที่สุดของคนๆ หนึ่งก็ว่าได้เลยนะครับ จากที่โค้ชได้รวบรวมข้อมูลมา อาจจะช่วยให้พวกเราที่กำลังอยากจะซื้อบ้านได้รับประโยชน์สูงสุดก่อนซื้อบ้านและอาจจะช่วยวางแผนการผ่อนให้กับพวกเราได้อย่างสบายใจมากขึ้น ขอให้พวกเราได้ลองนำไปปรับใช้กันดูนะครับ