วันนี้วันพระ ทำใจให้บริสุทธิ์ผ่องใสกันให้ได้ทั้งวันนะครับ
คงไม่มีข่าวดีไหนที่จะทำให้คนไทยเกือบทั้งประเทศดีใจได้เท่ากับข่าวการได้กลับบ้านอย่างปลอดภัยของหมูป่าทั้ง 13 ชีวิต!!นานมากแล้วที่โค้ชไม่เคยเห็นเหตุการณ์ที่สร้างวีระบุรุษ ได้มากมายขนาดนี้ ได้เห็นการร่วมมือกันของคนนับหมื่น ต่างอาชีพ ต่างวัย ต่างเชื้อชาติ ทำงานเพื่อวัตถุประสงค์เดียวกัน การที่ภาระกิจสำคัญในครั้งนี้สำเร็จได้อย่างอัศจรรย์ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เป็นเพราะทุกคนรวมใจกันเป็นหนึ่ง ตั้งแต่ผู้ว่า เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย รวมไปทุกอาสาสมัครทุกคน เหมือนจิ๊กซอต่อภาพที่ขาดใครไปก็จะทำให้ภารกิจนี้ยากที่จะสำเร็จถึงแม้ว่าจะมีการสูญเสียของหนึ่งชีวิต แต่ถ้าวิญญาญของจ่าแซมได้รับรู้ว่าเด็กทุกคนปลอดภัย จ่าแซมที่อยู่บนฟ้าคงจะมีความสุขมากๆโค้ชเชื่อว่าเสียสละชีวิตของจ่าแซมที่ยิ่งใหญ่ในครั้งนี้จะไม่สูญเปล่าแต่กลับเป็นการสร้างตำนานที่ยิ่งใหญ่ให้ระลึกถึงความกล้าหาญ และเสียสละ เชื่อว่าจ่าแซมจะอยู่ในใจของคนไทยและชาวต่างชาติไปอีกนานแสนนานวันนี้โค้ชก็ได้มีโอกาสมาทำบุญที่วัด และได้ฟังหลวงพ่อเล่าถึงเรื่องในสมัยพุทธกาลเรื่องหนึ่งที่มีพระภิกษุ 7 รูปเดินทางไปเฝ้าพระพุทธเจ้า และระหว่างที่เดินทางท่านก็ได้แวะพักที่ถ้ำแห่งหนึ่ง ตอนกลางคืนอยู่ดีๆก็มีหินขนาดใหญ่กลิ้งมาปิดปากถ้ำไว้ พระหลายรูปพยายามช่วยกันผลักเท่าไร หินก็ไม่ขยับเลย ทำให้ท่านไม่สามารถออกจากถ้ำได้ ต้องอดข้าวอยู่เป็นเวลา 7 วันเต็มแต่เมื่อครบ 7 วัน หินก้อนนั้นก็กลิ้งออกไปเอง ทำให้ท่านสามารถออกจากถ้ำได้ พระท่านได้นำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้นพระพุทธเจ้าก็ได้ตรัสตอบกลับไปว่า เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะเมื่อในอดีต พระทั้ง 7 รูปนี้ ชาติหนึ่งเคยเกิดเป็นเด็ก และไล่จับตัวเงินตัวทองเพื่อจะนำไปทำอาหาร แต่ตัวเงินตัวทองนี้ ก็ได้หนีเข้าไปในโพรงดิน เด็กเหล่านั้นเลยเอาหินมาปิดปากโพรงดินเอาไว้ คิดว่าหลังว่าวันหลังจะกลับมาจับอีก 7 วันต่อมาเด็กๆ ก็ได้กลับมาที่โพรงดินนั้น เพื่อจะมาจับตัวเงินตัวทอง แต่พอเอาหินออก ตัวเงินตัวทองก็คลานออกมาอย่างช้าๆ ร่างกายซูบผอมเพราะไม่ได้กินอะไรมา 7 วันเด็กน้อยเห็นเช่นนั้นก็สงสารไม่คิดฆ่ามาทำอาหารอีกต่อไปด้วยกรรมในชาตินั้นเลยส่งผลให้พระทั้ง 7 นี้ติดอยู่ในถ้ำเป็นเวลา 7 วัน เมื่อหมดวิบากกรรม หินก็กลิ้งออกไปเองส่วนเรื่องหมูป่านี้ หลวงพ่อท่านก็มิทราบว่าทีมเด็กๆ ได้กระทำกรรมใดไว้ แต่ก็คงมีบุญไม่น้อย เพราะไม่เสียชีวิต และได้รับการช่วยเหลือจากคนทั่วโลกจากที่เหตุการณ์นี้ หลวงพ่อได้ให้ข้อคิดดีๆ อีกว่า ในทางพุทธศาสนาไม่มีคำว่าบังเอิญ หรือฟลุ๊ค มีแต่คำว่าเหตุ และ ผล แถมยังฝากให้พวกเราทุกคนอย่างได้ประมาท เพราะเราไม่รู้เลยว่าในอดีตชาติเราได้เคยทำกรรมใดไว้บ้างเพราะฉนั้นเราต้องหมั่น คิดดี พูดดี ทำดี อยู่ตลอดเวลา และสร้างกรรมดี ทำบุญ รักษาศีล เจริญภาวนา เพื่อตัดรอนวิบากกรรม จากร้ายจะไ้ด้กลายเป็นดี หนักจะได้กลายเป็นเบา และถ้าดีอยู่แล้ว ก็จะได้ดียิ่งๆ ขึ้นไปอีกสุดท้ายนี้โค้ชขอเอาบุญที่ทำในวันนี้มาฝากเพื่อนๆ ทุกคน ขอให้ ร่ำรวย แข็งแรง มีความสุขกันทุกๆ คนนะครับ
ขอบคุณครับ
โค้ชณัฐ
#ธุรกิจกับจิตใจต้องไปคู่กัน