เพื่อนๆ เคยสงสัยไหมครับ ว่าทำไมคนบางคน กว่าจะทำงานให้ประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องใช้ความพยายามอย่างหนัก  แต่คนบางคน อาจใช้ความพยายามและความขยันขันแข็งพอประมาณ แต่ก็สามารถประสบความสำเร็จ เจริญก้าวหน้ามากกว่าคนอื่นอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อก่อนโค้ชก็เคยสงสัยเช่นกัน
 
สำหรับวันพระในวันนี้โค้ชขอนำมงคลชีวิตข้อที่5 มาฝากนั่นก็คือ มีบุญวาสนามาก่อน
 
แต่ก่อนอื่นเราควรมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าบุญคืออะไร 
บุญ คือ พลังงานบริสุทธิ์ที่เกิดขึ้นในจิตใจ แล้วทำให้จิตใจใสสะอาดปราศจากความเศร้าขุ่นมัวเกิดขึ้นจากการที่ใจสงบ ทำให้เลือกคิดเฉพาะสิ่งที่ดีที่ถูกที่ควรที่เป็นประโยชน์แล้วทำให้เกิดการพูดดีทำดีตามที่เราคิด
 
ถึงแม้ว่าเราจะมองไม่เห็นบุญ แต่ก็สามารถรู้สึกได้ เช่นเดียวกันกับ “ไฟฟ้า” แม้ว่าเราจะมองไม่เห็นว่าไฟฟ้ามีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร แต่เราก็สามารถรับรู้ผลได้ว่า เมื่อมีกระแสไฟฟ้าผ่านเข้าไปในหลอดไฟ จะทำให้หลอดไฟสว่าง เป็นต้น
 
บุญ เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะทำให้จิตใจของเรามีคุณภาพดีขึ้น คือ มีจิตที่ตั้งมั่นไม่หวั่นไหว บริสุทธิ์ผุดผ่อง รู้สึกโปร่งโล่ง เบาสบายไม่อึดอัด  ไม่กระสับกระส่าย  ผ่อนคลาย ไม่ตึงเครียด มีความสุข และบุญที่เกิดขึ้นนั้นยังสามารถสะสมไว้ในใจได้อีกด้วย
 
 
ทีนี้เรามาดูถึงคุณสมบัติของบุญกันครับ 
 1. บุญสามารถชำระกายวาจาใจ ให้สะอาดได้
2. บุญสามารถนำความสุข และความเจริญก้าวหน้ามาให้เราได้
3. บุญจะติดตามเราไปแม้จะไปเกิดในภพชาติอื่นๆ 
4. บุญเป็นของเฉพาะตนใครทำใครได้ขอยืมกันไม่ได้ โจรไม่สามารถขโมยได้
5. บุญเป็นที่มาของโภคทรัพย์ทั้งหลาย
6. บุญให้มนุษย์สมบัติ ทิพย์สมบัติ และนิพพานสมบัติแก่เราได้
7. บุญเป็นเกราะป้องกันภัยในวัฏฏสงสาร หมายถึง ในการเวียนว่ายตายเกิด บุญจะคุ้มครองให้เกิดในที่ที่ดี อยู่อย่างมีความสุข ตายอย่างไม่ทรมาน
8. บุญเป็นปัจจัยให้บรรลุมรรคผลนิพพาน 
 
สมัยก่อนนั้นจะแบ่งบุญออกเป็น2 ประเภทคือ
1. บุญช่วงไกล คือ คุณงามความดีที่เราได้ทำตั้งแต่ภพชาติก่อนจนกระทั่งถึงวันที่คลอดจากท้องแม่
2. บุญช่วงใกล้ คือ คุณงามความดีที่เราทำในภพชาติปัจจุบันตั้งแต่คลอดจนถึงตอนนี้

บุญช่วงไกล เกิดจากการสั่งสมความดีมาตั้งแต่ภพชาติก่อน แล้วส่งผลให้เราเห็นในปัจจุบันเหมือนกับผลไม้ที่คัดเมล็ดพันธุ์มาดีแล้ว เมื่อนำมาปลูกก็ได้ผลที่รสชาติอร่อย โดยที่ไม่ต้องทะนุบำรุงมาก คนเราก็เช่นกันถ้าในอดีตชาติสะสมความดีมามากพอ เกิดมาชาตินี้ก็เป็นคนใจสะอาดบริสุทธิ์มาตั้งแต่เด็ก มีสติปัญญาดีมาแต่เกิด รูปร่างสง่างาม ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ มีโอกาสสร้างความดีได้มากกว่าคนทั่วไป

บุญช่วงใกล้ เกิดจากการที่ทำความดีตั้งแต่เด็กเรื่อยมา เช่น ตั้งใจเรียนขยันหมั่นเพียร คบคนดี ฝึกใจให้ผ่องใสมาตั้งแต่เด็ก ก็จะทำให้ความคิดคำพูดการกระทำดีกว่าคนอื่นในวัยเดียวกัน เมื่อโตขึ้นก็ย่อมมีความเจริญก้าวหน้ามากกว่าผู้อื่น
 
การทำบุญในอดีตส่งผลต่อปัจจุบัน การทำบุญในปัจจุบันส่งผลต่อปัจจุบันและอนาคต
ดังนั้น เราจึงควรสั่งสมบุญ โดยทำความดีตั้งแต่วันนี้จะได้ส่งผลให้มีสติปัญญาดี มีความเฉลียวฉลาด มีความเจริญก้าวหน้าในชีวิตต่อไป
 
โดยการทำบุญนั้น หมายถึง การมีจิตใจที่ดี จนมีกำลังสามารถทำให้เกิดการกระทำความดีออกมาทางกาย ทางวาจาและทางใจ บางคนอาจคิดว่าการทำบุญ คือการบริจาคเงินเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแบ่งวิธีทำบุญออกเป็น  10  ประการ เรียกว่า บุญกิริยาวัตถุ 10 ได้แก่
 
1. ทานมัย บุญที่ได้จากการบริจาคทรัพย์หรือสิ่งของแก่ผู้ที่ควรให้ เป็นการฆ่าความตระหนี่ในใจ
2. ศีลมัย บุญที่ได้จากการสำรวมกาย วาจา ไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ตนเองและผู้อื่น
3. ภาวนามัย บุญที่เกิดจากการอบรมจิตใจให้สงบจากกิเลส และการอบรมเจริญปัญญาเพื่อความพ้นทุกข์ เช่น การสวดมนต์ ทำสมาธิ อ่านหนังสือธรรมมะ เป็นต้น
4. อปจายนมัย บุญที่เกิดจากการประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตน
5. เวยยาวัจจมัย บุญที่เกิดจากการขวนขวายบำเพ็ญประโยชน์ต่อผู้อื่น
6. ปัตติทานมัย บุญที่เกิดจากการอุทิศส่วนบุญที่ได้กระทำแล้วแก่ผู้อื่น
7. ปัตตานุโมทนามัย บุญที่เกิดจากการยินดีในบุญกุศลที่ผู้อื่นได้กระทำแล้ว
8. ธัมมัสวนมัย บุญที่เกิดจากการฟังธรรม
9. ธัมเทสนามัย บุญที่เกิดจากการแสดงธรรม
10. ทิฎฐชุกรรม บุญที่เกิดจากปรับปรุงความเห็นของตนให้ถูกต้อง
 
ตัวอย่างผลของบุญ

• ผู้ที่อายุยืน เพราะในอดีตไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
• ผู้ที่ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ เพราะในอดีตไม่รังแกหรือทรมานสัตว์
• ผู้ที่มีร่างกายสมบูรณ์ เพราะในอดีตให้ทานด้วยข้าวปลาอาหาร มามาก
• ผู้ที่มีผิวพรรณงดงาม เพราะในอดีตรักษาศีล และให้ทานด้วยเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มมามาก
• ผู้ที่มีอำนาจมีคนเกรงใจ เพราะในอดีตมีมุทิตาจิต ใครทำความดีก็อนุโมทนา ไม่อิจฉาริษยาใคร
• ผู้ที่ร่ำรวยมีโภคทรัพย์มาก เพราะในอดีตให้ทานมามาก
• ผู้ที่เกิดในตระกูลสูง เพราะในอดีตบูชาบุคคลที่ควรบูชามามาก
• ผู้ที่ฉลาดมีสติปัญญาดี เพราะในอดีตคบบัณฑิต ฝึกสมาธิเจริญภาวนามาก และไม่ดื่มสุรา ของมึนเมา 

โค้ชเชื่อว่า บุญเป็นสิ่งที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ แม้ว่าเราจะทำบุญแล้ว แต่ยังไม่เห็นผลในวันนี้ แต่การทำบุญก็จะทำให้เรามีจิตใจที่ดี มีความสุข รู้สึกชุ่มชื่นหัวใจ เมื่อจิตใจรู้สึกดี ก็จะส่งผลให้ระบบการทำงานต่างๆ ในร่างกายดี ผิวพรรณผ่องใส สมองปลอดโปร่ง คิดหรือตัดสินใจทำงานต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ถ้าเราทำบาป หรือคิดสิ่งที่ไม่ดี ก็จะทำให้จิตใจขุ่นมัว เมื่อโกรธก็จะทำให้หัวใจเต้นแรงกว่าปกติ หน้าร้อนผ่าว ผิวพรรณหยาบกร้าน ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานไม่ดี เมื่อโกรธก็จะขาดสติ คิดทำสิ่งใดก็อาจจะผิดพลาดได้ง่าย
 
วิถีชีวิตของคนเรานั้น เกิดจากการผลของบุญและบาปที่เราได้เคยทำมาตั้งแต่ภพชาติก่อนๆ จนถึงปัจจุบัน เป็นผลของบุญระดับจิตใจและระดับบุคลิกภาพร่วมกัน ทำให้เราได้รับสิ่งต่างๆ เช่น ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข แต่ชีวิตของเราจะดีเต็มที่หรือไม่นั้น ยังขึ้นอยู่กับบุญเก่าหรือบาป ในอดีตที่เราเคยทำไว้ด้วย  เรื่องการให้ผลบุญและบาป เป็นเรื่องที่สลับซับซ้อน เช่น บางครั้งขณะที่เราตั้งใจทำความดีอยู่ แต่ผลบาปในอดีตตามมาทัน ทำให้ถูกใส่ร้ายป้ายสี หรือประสบเคราะห์กรรม บางคนก็อาจจะเข้าใจผิด คิดว่าทำทำดีแล้วไม่ได้ดี ทำให้หมดกำลังใจในการทำความดีไปเลยก็มี แต่ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า ผลบาปที่เราเคยทำในอดีตกำลังส่งผลอยู่ แต่บุญที่กำลังทำอยู่ ในปัจจุบันนั้นย่อมไม่ไร้ผล เมื่อเราตั้งใจทำบุญโดยไม่ย่อท้อ และไม่ทำบาปอีก เคราะห์กรรมนั้น ย่อมหมดสิ้นไป และได้รับผลของบุญคือความสุขความสำเร็จได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยในที่สุด
 
อย่างเพิ่งเชื่อโค้ชแต่เราต้องพิสูจน์ด้วยตนเองก่อน ถึงแม้ว่าจะบุญที่เราได้ทำไปในตอนนี้ เราไม่รู้ว่าส่งผลในชาติหน้าหรือไม่ แต่ผลของบุญก็จะทำให้เรามีความสุขทางใจในชาตินี้ ทำให้เรามีสมาธิ มีปัญญา สุขภาพจิตดี ร่างกายแข็งแรง ทำหน้าที่การงานใดก็จะประสบความสำเร็จ และมีความเจริญก้าวหน้าอย่างไม่ต้องสงสัยเลยจริงไหมครับ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก www.kalyanamitra.org